NAVA THANKYOU PARTY WITH อ.วิศิษฎ์ เตชะเกษม

เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561

อาเจ๊กไพศาล  พิสุทธิ์วัชระกุล อุปนายกสมาคมเตชะสัมพันธ์ ได้กรุณาจัดเลี้ยงคณะทำงานชมรมนวเตชะ  ที่โรงแรมมณเฑียร (สุรวงศ์) ในงานนอกจากท่านจะได้ให้โอวาท และขอบใจเหล่าชาวนวเตชะที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ จัดงาน จัดกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคณะผู้บริหารสมาคมอย่างแข็งขันตลอดปี 2560  วันนั้น พวกเราก็ได้รับเกียรติจากอาจารย์วิศิษฎ์  เตชะเกษม สถาปนิกมือหนึ่งและผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย มาอภิปรายเรื่อง “ทิศทางของธุรกิจตามหลักโหราศาสตร์แบบจีนและวิชาฮวงจุ้ย”  เนื่องจากอาจารย์ได้สละเวลาอภิปรายเกีอบสองชั่วโมง จุลสารจึงได้ตัดแค่ท่อนแรกมาตีพิมพ์ ให้สมาชิกได้อ่านเป็นน้ำจิ้ม และจะสามารถติดตามเนื้อหาทั้งหมดได้จากเวปไซด์ของสมาคม ตาม QRcode ท้ายบทความครับ

 

 

 

เอาล่ะ ผมขออยากจะเริ่มต้น เนื้อหาจริง ๆ วันนี้ ค่อนข้างเยอะ ผมอาจจะตัดบางส่วน แต่มีเรื่องหนึ่ง ตอนท้ายผมอยากจะแถมว่า เราจะตั้งโต๊ะอย่างไร สำหรับใคร เพื่อให้ได้เกิดความมั่นคง ขณะเดียวกัน มั่นคงแล้วยังมีผู้ใหญ่เกื้อหนุน มี ‘กุ๊ยนั้ง’ หรือถ้าเป็นการค้าขาย เปรียบเสมือนกับมีลูกค้ามาสนับสนุน ต่อมา เราต้องมีอีกอันหนึ่ง เค้าเรียกว่า ‘ไฉ่ซิ้ง’ คือเรานั่งมั่นคง มี ‘ กุ๊ยนั้ง’ แต่ต้องมีโชคลาภด้วย บางคน กุ๊ยนั้ง ใหญ่ สนับสนุนน่าดู ให้งานทำเต็ม แต่ไม่เคยได้เลื่อนขั้นเลย อันนี้ก็เป็นปัญหาอีกอันหนึ่ง แต่ว่า วันนี้ ผมได้รวบรวมวิชานี้ขึ้นมา เพื่อให้พวกเราสามารถเอากลับไปใช้ได้

 

 

ผมเริ่มต้นอย่างนี้เลยว่า

วิชา “ฮวงจุ้ย” นั้นไม่ใช่สิ่งลี้ลับ หากมีวลีหนึ่งที่กล่าวถึง หลักสำคัญของความสำเร็จของการกระทำใดๆ คือ ให้รู้ทัน 3 ประการ คือ “รู้ฟ้า รู้ดิน รู้คน” หรือกล่าวในสำเนียงจีนเตวี่ยจิวว่า “เทียนซี๊ ตี่หลี หนั่งฮั้ว”
หนึ่ง “เทียนซี้” แปลว่า “เวลาสวรรค์” หรือ “เวลาฟ้า” หมายถึง ช่วงเวลาที่จะกระทำสิ่งใดๆนั้น เป็นเวลาที่ดีไหม เป็นโอกาสที่เหมาะสมหรือไม่ (“เวลา” ก็คือ การผันแปรของจักรวาล ดวงดาว)

สอง “ตี่หลี” แปลว่า “ประโยชน์จากแผ่นดิน” หมายถึง สถานที่ ทำเล สภาพแวดล้อม ดีหรือไม่ ทำเล สถานที่ ที่เราจะไปค้าขายทำธุรกิจนั้น เหมาะสมไหมกับธุรกิจของเราหรือไม่ (เช่น จะทำธุรกิจอาหารเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู ในทำเลสถานที่ ที่อยู่ในสังคมของศาสนามุสลิม ก็คงไม่เหมาะสมแน่นอน)

สาม “หนั่งฮั้ว” แปลว่า “บุคคลสัมพันธ์” หรือ “ประสานบุคคล” หมายถึง บุคลากร หรือ คน มีศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ ความรู้ ความชำนาญ หรือมีความสามารถ ในการประสานปัจจัย ประยุกต์เรื่องราว เหตุผล เทคนิค ขบวนการต่างๆ ให้บังเกิดความสำเร็จ เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืนหรือไม่

สมมติว่า เราขายข้าวหมูแดง ที่อร่อยมากที่สุดในโลกระดับ Michellin Star ให้ 7 ดาว สูตรการปรุงจากฮ่องกงที่อร่อยมาก โดยเราอยากจะขายให้คนไทยที่ยังไม่มีเคยรับประทานได้มีโอกาสลิ้มรสทดลองดูบ้าง เราจึงดำเนินการเปิดร้านขายข้าวหมูแดงที่แสนอร่อยในช่วงเวลากลางคืน แต่ปรากฏว่าเปิดร้านขายข้าวหมูแดงตอนกลางคืน ลูกค้าน้อยกว่าขายกลางวันมาก เพราะคนส่วนมากจะไม่นิยมรับประทานอาหารหนักๆกันในช่วงเวลากลางคืน เช่นนี้ เรียกว่า “เทียนซี๊” ไม่เหมาะสม

ดังนั้น หากเราทำธุรกิจอะไรก็ตามที่มันไม่เหมาะสมกับเวลา แน่นอน เราจะไม่ได้รับความสำเร็จ ดังวลีจีน คำว่า “โถ่ยซี๊” ก็คือ การเลือกเวลาสวรรค์ หรือความหมายคือ “ฤกษ์ดี” นั้นเอง
แต่แม้ว่า เราได้ปรับมาขายข้าวหมูแดง ในช่วงเวลากลางวันที่คนส่วนใหญ่รับประทานอาหารกันแล้ว แต่เราไปเปิดกิจการร้านค้าในทำเลที่ท้ายซอยที่ไกลชุมชน ในขณะที่คู่แข่งอื่นๆที่ขายข้าวหมูแดงเหมือนกัน ที่แม้ว่าจะอร่อยถูกปากน้อยกว่าเรามาก แต่ทำเลที่ขายอยู่ในเขตชุมชน ที่มีผู้คน ลูกค้าหนาแน่นกว่า ใกล้ชุมชน ใกล้สังคม แน่นอน คู่แข่งนี้ย่อมได้เปรียบกว่า

 

อีกตัวอย่างหนึ่ง คือเรื่องความเป็นมาของร้านสะดวกซื้อ “7-11” ซึ่ง concept ครั้งแรกของ “7-11” คือการนำร้านสะดวกซื้อเข้าไปบริหารถึงในหมู่บ้าน ดำเนินธุรกิจนานเกือบสิบปี แต่ปรากฏว่าไม่ประสบความสำเร็จ ถึงกับขาดทุน ช่วงนั้นนักธุรกิจชาวไต้หวัน ขอซื้อธุรกิจ “7-11” จากอเมริกาไปทำที่ไต้หวัน และได้ตั้งสมมติฐานใหม่ พบว่า การคาดหวังจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ในหมู่บ้านให้เป็นลูกค้าหลักในหมู่บ้านนั้น เป็นการวางสถานที่กลุ่มเป้าผิด จึงลองตั้งสมมติฐานใหม่ ย้ายออกไปจากหมู่บ้าน โดยช่วงระยะแรกๆ ตั้งอยู่ตามหัวมุมถนน ปรากฏว่าได้จำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมาก และประสบความสำเร็จ และได้พบว่า จำนวนปริมาณ ลูกค้าส่วนมากไม่ใช่คนที่อยู่ในบ้านแล้วจะออกมาซื้อของเพียงชิ้นสองชิ้น เพราะส่วนใหญ่บ้านตามหมู่บ้าน มักจะสำรองอาหารการกินไว้พร้อม

 

อีกทั้ง คนไต้หวัน ในวันทำงาน จะไม่นิยมกินอาหารเช้ากันที่บ้าน เพราะจะทำให้ออกมาทำงานสาย เนื่องจากความหนาแน่นของมวลชน ประกอบกับการจราจรที่ติดขัดมาก จึงนิยมออกจากบ้านกันแต่เช้า ทานอาหารแบบเร่งรีบ ตามร้านข้างทาง หรือสถานที่ใกล้ๆสถานีรถขนส่งมวลชน ป้ายรอรถเมล์โดยสารสาธารณะ อนึ่ง ชาวไต้หวันนิยมรับประทานแป้ง “หม่านโถว” หรือที่เราเรียกว่า “ซาลาเปา” กันเป็นอาหารจานด่วนในมื้อเช้า “7-11” จึงคิดทำซาลาเปาขายใน “7-11” ปรากฏว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก จากนั้นมา ซาลาเปา จึงกลายเป็นสินค้าที่อยู่คู่กับ “7-11” ตลอดมา

 

นี้คือความสำคัญของคำว่า “ทำเล” หรือ “ตี่หลี”

ตัวที่สาม “หนั่งฮั้ว” เราต้องทราบว่า เราจะขายสินค้าอะไรที่เราถนัด เก่ง มีความเชี่ยวชาญ รู้จริง ในสินค้านั้นๆ จะขายสินค้าให้กับใคร ใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักของเรา มีปริมาณมากเพียงพอต่อการขยายกิจการ พอเหมาะต่อการเจริญเติบโตทางธุรกิจ คุ้มค่าหรือไม่ มีคู่แข่งมากเท่าไร มีสัดส่วนการขายมากน้อยเพียงไร

 

บางคนชอบถามผมว่า “อาจารย์คะ ช่วยดูโหงวเฮ้งของหนูหน่อยค่ะ ว่าหนูจะทำธุรกิจอะไรถึงจะรวย” ผมถามว่า “และคุณเก่งหรือถนัดชำนาญอะไรเป็นพิเศษกว่าคนอื่นๆหรือเปล่า” เธอตอบว่า “หนูไม่เก่งอะไรเลยค่ะ” ผมจึงตอบว่า “ถ้าเช่นนั้น คุณอยู่บ้านดีกว่า นั่นแหละจะรักษาความรวยไว้ได้” เพราะถ้าหากไม่เก่ง ไม่มีความชำนาญในสินค้าที่จะคิดทำธุรกิจแล้ว จะมีโอกาสขาดทุน เจ๊ง แน่นอน นี่คือความหมายของ “หนั่งฮั้ว”
ดังนั้น หลักสำคัญของวิชา ฮวงจุ้ย ที่กล่าวถึง “เทียนซี๊ ตี่หลี หนั่งฮั้ว” คือการที่เราจะทำสิ่งใด อะไรก็ตาม ขอให้เราพิจารณาว่า

๑. สถานการณ์นั้นเหมาะสมหรือไม่

๒. สถานที่เหมาะสมไหม

๓. คนเหมาะสมไหม










ทิศทางของธุรกิจตามหลักโหราศาสตร์แบบจีนและวิชาฮวงจุ้ย