ต้นกำเนิดตระกูลแต้ (เจิ้น)

“การเคารพ นบนอบและเทิดทูนบูชาบรรพบุรุษ คือ วัฒนธรรมอันดีงามของชนชาติจีน เป็นรากฐานแห่งจิตวิญญาณที่ปลูกฝังมาช้านานโดยไม่เสื่อมคลาย”

ดร.ซุนยัดเซ็นบิดาของประเทศจีนได้ชี้แนะวิถีแห่งความสามัคคีให้ชาวจีนสำนึกอยู่เสมอว่าความสามัคคีต้องกำเนิดจากครอบครัวเป็นอันดับแรกแล้วขยายออกไปสู่ผู้ร่วมตระกูลแซ่จากผู้ร่วมตระกูลแซ่สู่ประเทศชาติวิถีแห่งความสามัคคีแบบนี้ชาวจีนโพ้นทะเลได้ปฏิบัติมาโดยตลอดแต่ละตระกูลแซ่ในประเทศจีนล้วนมีต้นกำเนิดจากรากเหง้าเดียวกันอาทิบรรพบุรุษต้นตระกูลแต้มาจากต้นตระกูลแซ่กีในราชวงศ์โจวส่วนต้นตระกูลกีสืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลอึ้งตี่ดังนั้นหากสืบสาวรากเหง้าย้อนหลังไปร้อยปีพันปี สันนิษฐานได้ว่าชนชาติจีนในปัจจุบันล้วนสืบเชื้อสายมาจากตระกูลอึ้งตี่ทั้งสิ้น

ทัศนคติการเคารพนบนอบเทิดทูนบูชาบรรพบุรุษในสังคมจีนมีมาช้านานยุคโบราณกาลถือว่าผู้อาวุโสที่สุดในเผ่าพงศ์คือผู้นำของศูนย์กลางแต่การจัดระเบียบผู้ร่วมตระกูลอย่างจริงๆจังๆเริ่มจากการจัดระบบผู้ร่วมตระกูลที่ราชวงศ์โจวได้บัญญัติไว้กำหนดระบบกฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษต้นตระกูลกับผู้ร่วมตระกูลไว้อย่างชัดเจนใช้คำพูดปัจจุบันจำกัดความอย่างง่ายๆก็คือเหง้าบรรพบุรุษคือรุ่นแรกของวงศ์ตระกูลลูกหลานในตระกูลคือทายาทสืบตระกูลทายาทสืบตระกูลแบ่งเป็นผู้สืบตระกูลอันดับแรกและผู้สืบตระกูลอันดับรองบุตรชายหัวปีของภรรยาหลวงคือผู้สืบตระกูลอันดับแรกนอกนั้นจะเป็นบุตรชายคนที่สองหรือสามก็ตาม เป็นผู้สืบตระกูลอันดับรอง ด้วยเหตุนี้ระบบกฎเกณฑ์ในการจัดระเบียบการสืบวงศ์ตระกูลจึงมีความสำคัญมาก

ตระกูลแต้มีกำเนิดมาจากแต้ก๊กบรรพบุรุษต้นตระกูลแต้คือแต้ฮ้วงกงผู้ครองแต๊ก๊กแต้ฮ้วงกงที่มีชื่อเรียกว่าอิ้วเป็นพระราชโอรสองค์สุดท้องของอ๋องลี่ในราชวงศ์โจวต้นตระกูลของราชวงศ์โจวแซ่กีดังนั้นเมื่อนำระบบกฎเกณฑ์การจัดระเบียบการสืบสันตติวงศ์มาลำดับแต้ฮ้วงกงถือว่าเป็นผู้สืบสันติวงศ์อันดับรองหลังจากอ๋องลี่สิ้นพระชนม์ราชบุตรหัวปีขึ้นครองราชย์แทนทรงพระนามว่าอ๋องซวนซึ่งเป็นทายาทผู้สืบสันตติวงศ์อันดับแรกถูกต้องตามครรลองครองธรรม

อ๋องซวนสนิทสนมรักใคร่กับฮ้วงกงผู้เป็นพระอนุชาต่อมาอ๋องซวนมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งฮ้วงกงผู้เป็นพระราชอนุชาให้เป็นเจ้าหัวเมืองปกครองแต้ก๊กตามระบบศักดินาราชวงศ์โจวเป็นปีที่22(ก่อนค.ศ.806)ของอ่วงซวนขึ้นครองราชย์พื้นที่ๆฮ้วงกงได้รับพระราชทานจากอ๋องซวนอยู่ใกล้เมืองหลวงเป็นพื้นที่ราบที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา ฮ้วงกงต้องไปบุกเบิกสร้างเมืองเอาเอง

หลังจากอ๋องซวนเสด็จสวรรคตอ๋องอิวขึ้นครองราชย์แทนฮ้วงกงได้รับบัญชาให้เข้ารับราชการในตำแหน่งซือถูในราชสำนักขณะนั้นท่านเห็นว่าในราชสำนักมีแต่การแก่งแย่งชิงดีกันเป็นภัยต่อราชวงศ์โจวไม่ช้าก็เร็วดังนั้นจึงได้วางแผนยุทธศาสตร์เพื่อกอบกู้อ๋องอิวในภายภาคหน้าตนเองตัดสินใจย้ายจากแต้ก๊ก ไปสร้างเมืองใหม่ที่ลกอิบ(เมืองลกเอี๊ยงในปัจจุบัน)ซึ่งเป็นแต้ก๊กในเวลาต่อมา

แต้ก๊กสืบสันตติวงศ์ติดต่อกัน14รัชสมัยผ่านการปกครองแผ่นดินมา23เจ้าหัวเมืองรวม431ปีครั้นถึงสมัยอ๋องโจวเลี่ยขึ้นครองราชย์(ก่อนค.ศ.375)แต้คังกงผู้ครองแต้ก๊กขณะนั้นเห็นว่าแต็ก๊กถูกฮั่งกุ๊กรุกรานอยู่เป็นนิตย์จึงย้ายไปสร้างเมืองที่อำเภอตังซ้ง(มณฑลฮ่อน้ำปัจจุบัน)ใช้ชื่อก๊กเป็นแซ่ด้วยเหตุนี้คนแต้ก๊กจึงเปลี่ยนมาใช้แซ่แต้กันหมดแต่นั้นมานี่คือความเป็นมาของต้นกำเนิดตระกูลแต้โดยสังเขป

แต้ฮ้วงกง (鄭桓公) บรรพบุรุษต้นตระกูลแต้


Tae in Chiness แต้ฮ้วงกง(鄭桓公)บรรพบุรุษต้นกระกูลแต้ได้รับพระราชทานให้ปกครองแต้ก๊กเมื่อ2,800ปีก่อนนับเป็นประวัติศาสตร์อันยาวนานทายาทสืบสานตระกูลแต้รุ่นแล้วรุ่นเล่ามีทั้งนักปราชญ์บัณฑิตขุนนางผู้ใหญ่แม่ทัพอาชาไนยคฤหบดีพ่อค้าวานิชเป็นต้นมากมายเหลือคณานับในที่นี้จะกล่าวแต่ประวัติแต้ฮ้วงกงบรรพบุรุษต้นตระกูลแต้สถาปนาขึ้นปกครองแต้ก๊กโดยสังเขปแต้ฮ้วงกงเดิมชื่ออิ้วฮ้วงกงคือพระสมัญญาหลังสิ้นพระชนม์แล้วท่านเป็นพระราชโอรสองค์สุดท้องของอ๋องลี่แห่งราชวงศ์โจวพระราชนัดดารุ่นที่11ของอ๋องโจวบุ๋นได้รับพระราชทานให้ปกครองแต้ก๊กเมื่อปีที่22ของอ๋องโจวซานขึ้นครองราชย์ (ก่อน ค.ศ. 806)

ราชวงศ์โจวปกครองด้วยระบอบศักดินาขุนนางผู้ใหญ่และวงศ์ตระกูลกีหรือข้าราชการผู้ใหญ่ที่มีความดีความชอบล้วนได้รับพระราชทานให้ปกครองแผ่นดินเป็นก๊กใหญ่ก๊กน้อยซึ่งเรียกว่าเจ้าหัวเมืองแต้ฮ้วงกงได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯช้ากว่าผู้อื่นอีกทั้งอยู่ในระหว่างใกล้ล่มสลายของราชวงศ์โจวเหล่าเจ้าหัวเมืองต่างก็มีฐานปกครองที่เข้มแข็งส่วนในราชสำนักก็มีแต่การแก่งแย่งชิงดีกัน คิดทำลายฝ่ายตรงข้ามอยู่เป็นนิตย์ด้วยเหตุนี้ แต่ฮ้วงกงได้แผ่นดินปกครองในเมืองหลวงเพียงหยิบมือหลังการปกครองและบริหารบ้านเมืองโดยเคร่งครัดตามครรลองขนบธรรมเนียม ประชาชนต่างอยู่เย็นเป็นสุขประกอบสัมมาอาชีพความขยันขันแข็งบ้านเมืองมีบรรยากาศอบอุ่นครื้นเครงท่านรู้สึกภาคภูมิใจและปลื้มปิติแต่เมื่อเห็นเจ้าหัวเมืองทั้งหลายต่างแข็งข้อไม่เห็นราชสำนักอยู่ในสายตา จึงตั้งปณิธานว่าจะช่วยราชวงศ์โจวปฏิรูปการปกครองเสียใหม่ในภายภาคหน้า

หลังจากฮ่องเต้โจวซวนเสด็จสวรรคตรัชทายาทอิวขึ้นครองราชย์ทรงเห็นการปกครองบ้านเมืองอย่างมีประสิทธิภาพของแต้ฮ้วงกงจึงมีพระบรมราชโองการให้ดำรงตำแหน่งซือถูในราชสำนักซือถูคือ1ใน3มหาอำมาตย์ของราชโจวกำกับดูแลฝ่ายการศึกษาราชวงศ์โจวปกครองแผ่นดินโดยยึดถือครรลองขนบธรรมเนียมเป็นที่ตั้งดังนั้นตำแหน่งซือถูเคร่งครัดในครรลองขนบธรรมเนียมซึ่งเป็นการปกครองที่ท่านยึดถือมาโดยตลอดจึงส่งผลให้การปกครองในราชสำนักของราชวงศ์โจวเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล

แต่น่าเสียดายฮ่องเต้ฮิวเป็นผู้ที่ไม่แสวงหาความก้าวหน้าในการปกครองแผ่นดินได้แต่เสพสุขไปวันๆฟังแต่คำทูลเท็จของกังฉินเขียกเจี๊ยส่งผลให้เจ้าหัวเมืองน้อยใหญ่ตีตัวออกห่างแต้ฮ้วงได้เฝ้าทูลถวายคำแนะนำด้วยความจงรักภัคดีหลายต่อหลายครั้ง แต่ฮ่องเต้ฮิวทรงไม่ฟังแม้แต่น้อย ทำให้แต้ฮ้วงกงทุกข์ใจมาก

ขณะนั้น ในราชสำนักมีขุนนางผู้ใหญ่ท่านหนึ่งชื่อแป๊ะเอี๊ยงเป็นขุนนางตงฉินท่านกับแต้ ฮ้วงกงรู้ดีว่าราชวงศ์โจวต้องเกิดจราจลในไม่ช้าอย่างแน่นอนจึงวางแผนช่วยราชวงศ์โจวพลิกฟื้นการปกครองเสียใหม่หลังจากทั้งสองได้ปรึกษาหารือแล้วตัดสินใจจะย้ายแต้ก๊กไปตั้งณที่ๆมียุทธภูมิที่ได้เปรียบคือ ต้องเป็นภูมิประเทศที่เมื่อเดินหน้าสามารถรุกเมื่อถอยหลังสามารถตั้งรับได้เพื่อยึดเป็นฐานพลิกฟื้นราชวงศ์โจวท่านแป๊ะเอี๊ยงจึงชี้แนะให้แต้ฮ้วงกงย้ายแต้ก๊กไปตั้งณทิศตะวันออกของลกอิบและอยู่ที่ทิศใต้ของห่วงฮ้อเนื่องจากที่นั้นนอกจากเป็นภูมิประเทศที่ได้เปรียบด้านฤดูกาลชัยภูมิจิตใจคนที่มั่นคง แล้วยังมีผลดีอีกประการหนึ่งคือสามารถเป็นโล่กำบังต่อต้านการบุกรุกของศัตรู ทิศตะวันออกได้


แต้ฮ้วงกงรับคำชี้แนะของแป๊ะเอี๊ยงหลังเข้าเฝ้าฮ่องเต้อิวทูลขอพระบรมราชานุญาตย้ายเมืองแต้ก๊กแล้วจึงนำสมาชิกในตระกูลแต้และประชาชนส่วนหนึ่ง ไปสร้างเมืองใหม่ที่ด้านตะวันออก โดยตั้งเมืองหลวงที่อำเภอเอี๊ยง มณฑลฮ่อน้ำ ต่อมาก๊กไกวและก๊กเขียกได้บริจาคพื้นที่ให้แต้ ฮ้วงกง รวม 10 หัวเมืองโดยสมัครใจ แต้ฮวงกงจึงได้สร้างรากฐานแต้ก๊กขึ้นมาใหม่

หลังจากแต้ฮวงกงได้วางรากฐานเสร็จสรรพแล้วจึงให้กุ๊กตุ๊กซึ่งเป็นพระราชโอรสช่วยดูแลแต้ก๊กแทนส่วนพระองค์ท่านกลับไปช่วยราชการในราชสำนักขณะนั้นฮ่องเต้อิวได้แต่เชื่อคำยุยงส่งเสริมของผู้ไม่หวังดีหลงไหลพระสนมเพาเสือถึงกับปลดฮองเฮาและรัชทายาทอีกทั้งทรงเแกล้งเผาสัญญาณไฟเพื่อหลอกลวงให้เจ้าหัวเมืองมาช่วยรบทัพจับศึกเก้อเจ้าหัวเมืองซิงโฮ้วโกรธแค้นมาก จึงได้ร่วมมือกับคนตระกูลเคียงย้งยกทัพมาตีเมืองหลวงราชสำนักโจว

ขณะนั้นสถานการณ์ปะทุขึ้นเร็วมากแต้ฮ้วงกงไม่ทันได้ตั้งตัวฐานกำลังทัพของพระองค์ยังไม่เข้มแข็งพวกที่มีฐานกำลังพลเข้มแข็งต่างไม่มาช่วยเนื่องจากเกรงว่าจะถูกหลอกอีกทัพของแต้ฮ้วงกงจึงตกอยู่ในวงล้อมของข้าศึกแต่โดดเดี่ยวเมื่อเมืองหลวงแตกแต้ฮ้วงจึงถวายอารักขาฮ่องเต้อิวหนีไปประทับที่หลีซัวแต่ต้องประสบเคราะห์กรรมเพราะข้าศึกไล่ประชิดปลงพระชนม์ฮ่องเต้ฮิวแต่ฮ้วงกงถึงกับเฝ้าอารักจนสิ้นพระชนม์ชีพเมื่อราชวงศ์โจวอย่างห้าวหาญ

ขณะที่ราชวงศ์โจวใกล้ล่มสลายฐานทัพแต้ก๊กใหม่มีกำลังเข้มแข็งทันการพอดีรัชทายาทงี้ขูได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหัวเมืองต่างๆโดยเฉพาะแต้ก๊กต่อมารัชทายาทสถาปนาขึ้นครองราชย์เป็นฮ๋องเพ้งย้ายเมืองหลวงไปตั้งที่ลกอิบ(ลกเอี๊ยงในปัจจุบัน)อาศัยการคุ้มครองของแต้ก๊กพลิกฟื้นราชวงศ์โจวขึ้นใหม่อีกคำรบหนึ่ง

ราชวงศ์โจวสามารถสืบสันตติวงศ์ได้เพราะปฏิภาณของแต้ฮ้วงกงที่ช่วยวางแผนไว้เมื่อครั้งอดีตหากแม้นในอดีตไม่มีแต้ฮ้วงกงราชวงศ์โจวคงล่มสลายแล้วและหากแม้นแต้ฮ้วงกงไม่มีสายตาที่ยาวไกลและคมกริบพระองค์ท่านคงต้องสิ้นพระชนม์พร้อมกับการล่มสลายของต้นราชวงศ์โจวขณะที่ถูกข้าศึกเคียงย้งรุกรานในอดีตแซ่ของตระกูลแต้คงไม่มีโอกาสจารึกไว้ในทำเนียบตระกูลแซ่จวบจนปัจจุบัน