ยุคสมัยชุนชิว ขณะที่ปรมาจารย์ขงจื้อเดินทางจากอ้วยก๊กกลับสู่หลู่ก๊ก ระหว่างทางเห็นหุบเขาเต็มไปด้วยดอกจือลั้ง ส่งกลิ่นหอมอบอวลทั่วบริเวณ จึงอุทานขึ้นว่า ดอกจือลั้งสมควรยกย่องเป็นราชาแห่งความหอมมวลบุปผชาติ งามสะคราญท่ามกลางวัชพืช อย่างโดเด่น

ดอกจือลั้ง งามผุดผ่องหอมอบอวล

สัญลักษณ์แห่งบัณฑิตผู้สูงส่ง ถ่างไท่จงฮ่องเต้ทรงโปรดปราณดอกจือลั้ง ทรงพระราชนิพนธ์บทกลอนชื่นชมดอกจือลั้ง อย่างนางอี้กิก มารดาของแต้มกกง ก่อนคลอดแต้มกกงฝันเห็นดอกจือลั้ง สำคัญว่าจะมาซึ่งนิมิตหมายอันเป็นสิริมงคล จึงตั้งชื่อบุตรชายว่า “ลั้ง”

ต่อมาทายาทตระกูลแต้มีความเจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด มีทั้งขุนนางผู้ใหญ่ บัฑิต คหบดี และพ่อค้าวานิช สืบสานเกียรติภูมิของบรรพบุรุษต้นตระกูลแต้ สั่งสมไว้ให้โชติช่วงชัชวาลจวบจนปัจจุบัน

เนื่องจาก ดอกจือลั้งคือราชาแห่งความหอมมวลบุปผชาติ ยกย่องเป็นบุษบาสูงส่งผุดผ่องใส กลิ่นอบอวลหอมรวยริน กวีเอกทั้งอดีตและปัจจุบัน ต่างเปรียบเปรยชื่นชมดอกจือลั้งเคียงคู่บัณฑิตสุภาพชน

ด้วยเหตุนี้ สามาคมเตชะสัมพันธ์จึงนำมาเป็นสัญลักษณ์สมาคมอย่างเต็มภาคภูมิ

泰國鄭氏宗親總會